“โรงกลึง คือ อะไร”
อุตสาหกรรมประกอบกิจการเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์โลหะหรือ”โรงกลึง”ถือเป็นอุตสาหกรรมต้นน้ำเกี่ยวกับการผลิตที่เป็นพื้นฐานของการผลิตชิ้นส่วนต่าง ๆ ที่สำคัญของกิจการเกือบทุกประเภท จากการศึกษาตลาดธุรกิจโรงกลึง พบว่า โรงกลึงส่วนใหญ่จะตั้งอยู่ในแหล่งนิคมอุตสาหกรรมในภาคกลางและภาคตะวันออก โดยปัจจัยในด้านผลิตภัณฑ์และด้านกระบวนการในการผลิตมีอิทธิพลต่อการเลือกใช้บริการธุรกิจโรงกลึงต่อลูกค้ามากที่สุด ทางลูกค้าจะเลือกโรงกลึงที่สามารถให้บริการได้ตรงกับความต้องการและมีบริการแบบครบวงจร
โรงกลึง คือโรงงานที่ทำหน้าที่แปรรูปวัสดุต่างๆ โดยเฉพาะโลหะ ให้เป็นชิ้นส่วนที่มีความแม่นยำสูงตามแบบที่ต้องการ โดยใช้เครื่องจักรกลที่ออกแบบมาเพื่อการตัดเฉือนวัสดุเหล่านั้นให้เป็นรูปร่างที่ต้องการ เช่น การกลึง การเจาะ การกัด การไส และการขัด ซึ่งชิ้นส่วนที่ผลิตจากโรงกลึงเหล่านี้มีบทบาทสำคัญในการประกอบเป็นผลิตภัณฑ์ขั้นสุดท้ายในหลากหลายอุตสาหกรรม เช่น อุตสาหกรรมยานยนต์ อุตสาหกรรมเครื่องจักรกล อุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ และอื่นๆ
จำนวน โรงกลึงนับเป็นกิจการที่สามารถพบเห็นได้ทั่วไปในแต่ละภูมิภาคของไทย โดยตามรายงาน
ของกรมพัฒนาธุรกิจการค้าพบว่า ข้อมูล ณ 24 ต.ค. 2559 จำนวนผู้ประกอบการที่จดทะเบียนการค้ากับกรม
พัฒนาธุรกิจการค้าในหมวดการกลึง กัด ไสโลหะและการปรับสภาพและการเคลือบโลหะ การกัดกลึงขึ้นรูป ที่ยังมี
สถานภาพคงอยู่ในปัจจุบันมีด้วยกันราว 2,500 ราย และมีรายได้รวมประมาณ 40,000-50,000 ล้านบาท
โดยโรงกลึง ส่วนมากตั้งอยู่ในเขตพื้นที่ที่เป็นแหล่งโรงงานอุตสาหกรรมอย่างจังหวัดสมุทรปราการ ตามมาด้วยกรุงเทพฯ ชลบุรี
ปทุมธานี สมุทรสาคร ระยอง และอยุธยา
ขั้นตอนการผลิตในโรงกลึงโดยทั่วไป
การออกแบบ: วิศวกรจะทำการออกแบบชิ้นงานตามความต้องการของลูกค้า โดยใช้โปรแกรม CAD (Computer-Aided Design)

การเตรียมวัสดุ: วัสดุที่ใช้ในการผลิตจะถูกนำมาตัดให้มีขนาดตามที่ต้องการ
การตั้งค่าเครื่องจักร: ช่างเทคนิคจะทำการตั้งค่าเครื่องจักรให้ทำงานตามโปรแกรมที่ได้ออกแบบไว้
การตัดเฉือน: เครื่องจักรจะทำการตัดเฉือนวัสดุให้เป็นรูปร่างตามที่ต้องการ
การตรวจสอบคุณภาพ: ชิ้นงานที่ผลิตเสร็จจะถูกนำมาตรวจสอบคุณภาพ เพื่อให้มั่นใจว่าเป็นไปตามมาตรฐานที่กำหนดไว้
การตกแต่งผิว: ชิ้นงานอาจถูกนำไปตกแต่งผิว เช่น การชุบ การขัด หรือการเคลือบ เพื่อเพิ่มความสวยงามและป้องกันการเกิดสนิม
ลักษณะกิจการ”โรงกลึง” ในประเทศไทย
เดิมกิจการโรงกลึงมักจะเป็นไปในลักษณะของการผลิตชิ้นส่วนเพื่อซ่อมแซมให้กับ
เครื่องจักรนำ เข้าในยุคแรกๆ ของการพัฒนาอุตสาหกรรมไทย ด้วยช่างฝีมือที่มาจากการสั่งสมประสบการณ์ในการ
ทำ งานที่มีความละเอียดของงานไม่สูงมาก และไม่สามารถรับงานในลักษณะที่เป็นซัพพลายเออร์ได้ จากนั้นได้มี
การพัฒนามาสู่การผลิตเพื่อรองรับอุตสาหกรรมการผลิตเครื่องจักรกลใหม่ที่ผลิตในประเทศ โดยเฉพาะภายหลังจาก
ที่อุตสาหกรรมชิ้นส่วนยานยนต์มีการเติบโตมากขึ้นตามลำดับ ก็ได้ก่อให้เกิดผู้ประกอบการในรูปซัพพลายเออร์ขึ้นเพื่อทำชิ้นส่วนยานยนต์ และทำ ให้กิจการโรงกลึงมีความก้าวหน้ามากขึ้น โดยมีการนำ เครื่องมือกลที่มีความละเอียดสูงมาใช้ รวมไปถึงมีการใช้เครื่องมือกลที่ควบคุมด้วยระบบคอมพิวเตอร์ (Computerized Numerical Control
Machine: CNC) และระบบการผลิตในลักษณะ CIM (Computer Integrated Manufacturing) ตลอดจนระบบ
Flexible Manufacturing System มาใช้ด้วย แต่ทั้งนี้โรงกลึงที่มีเครื่องมืออุปกรณ์ที่ดีและทันสมัยยังเป็นเพียง
ส่วนน้อยในปัจจุบัน เพราะต้องใช้เงินลงทุนสูงพอสมควร ส่งผลให้โรงกลึงส่วนใหญ่ในไทยยังคงเป็นผู้ประกอบการ
ขนาดกลางและขนาดเล็กที่ใช้แรงงานฝีมือ และเทคโนโลยีไม่สูงมากนัก
วัตถุดิบที่นิยมใช้กับโรงงานกลึง
สำหรับวัตถุดิบที่ใช้ในการผลิตครอบคลุมทั้งโลหะอย่างทองแดง อะลูมิเนียม หรือ
เหล็ก เป็นต้น และวัสดุอื่นๆ หลายชนิด เช่น พลาสติก ซึ่งส่วนใหญ่มักจะเป็นการจัดซื้อโดยตรงจากซัพพลายเอ
อร์และจากการที่ลูกค้าส่งมาให้(Consignment) หรือไม่ก็จะเป็นการนำ เข้าวัตถุดิบโดยตรงจากต่างประเทศหรือ
ผ่านตัวแทนจำ หน่ายในประเทศ โดยวัตถุดิบที่ใช้ในการผลิตส่วนใหญ่จะเป็นมาตรฐานตามข้อกำ หนดของลูกค้า
เป็นหลักและยังต้องปฏิบัติตามข้อกำหนดต่างๆ ที่ทางโรงงานผู้ผลิตได้ถือปฏิบัติตามมาตรฐานสากลด้วย
ด้วยความที่ราคาวัตถุดิบปัจจุบันมีความผันผวนเป็นอย่างมากและเปลี่ยนแปลงค่อนข้างเร็ว
อีกทั้งแผนการผลิตของลูกค้าก็มีโอกาสที่จะมีการปรับเปลี่ยนได้ตลอดเวลา ดังนั้น ทางผู้ประกอบการโรงกลึงจึง
ควรต้องทำการตกลงกับลูกค้าและผู้ผลิตวัตถุดิบในระบบการซื้อและขายไว้ล่วงหน้าด้วย เพื่อให้เหมาะสมกับสภาพแวดล้อม
ประเภทชิ้นงาน ลักษณะของงานส่วนมากจะเป็นทรงกระบอกซึ่งสามารถผลิตได้ด้วยเครื่องกลึงด้วยมือ
หรือ Manual และเครื่องกลึงด้วยคอมพิวเตอร์ หรือ CNC โดยโรงกลึงส่วนใหญ่จะรับผลิต ซ่อม กลึง ไส คว้าน
มิลลิ่ง เจียระไน ปั๊ม ล้อเฟือง โดยประเภทของชิ้นงานก็จะค่อนข้างหลากหลายอันได้แก่ ชิ้นส่วนเครื่องจักรกล
ชิ้นส่วนยานยนต์ ชิ้นส่วนต่างๆ ในโรงงาน ชิ้นส่วนอะไหล่อิเล็กทรอนิกส์ ชิ้นส่วนเครื่องมือทางการแพทย์ เป็นต้น
อุตสาหกรรม ที่โรงกลึงให้บริการผลิตชิ้นส่วน
ทำ ให้อุตสาหกรรมการผลิตของไทยต่างต้องเร่งปรับเปลี่ยนรูปแบบสินค้าและเทคโนโลยี เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าในยุคอนาคตข้างหน้า ดังนั้น ผู้ประกอบการโรงกลึงจึงจะต้องเตรียมตัวรับมือกับการปรับเปลี่ยนในภาคอุตสาหกรรมการผลิตขนานใหญ่ในอนาคต เพื่อร่วมเป็นกลไกสำ คัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยนับจากนี้ด้วย
1) โรงกลึงผลิตหุ่นยนต์เพื่ออุตสาหกรรม
2) โรงกลึงผลิตอุตสาหกรรมการขนส่งและการบิน
3) โรงกลึงผลิตอุตสาหกรรมชีวภาพ พลังงาน และเคมีชีวภาพ
4) โรงกลึงผลิตอุตสาหกรรมดิจิทัล
5) โรงกลึงผลิตอุตสาหกรรมการแพทย์และสุขภาพ
เครื่องจักรหลักในโรงกลึง
เครื่องกลึง (Lathe Machine): เป็นเครื่องจักรพื้นฐานที่ใช้ในการกลึงชิ้นงานทรงกระบอก โดยมีการหมุนชิ้นงานและใช้เครื่องมือตัดเฉือนเพื่อกำหนดรูปร่างและขนาด
เครื่องกลึงยันศูนย์ (Engine Lathe): เป็นเครื่องกลึงทั่วไปที่ใช้ในงานหลากหลายชนิด
เครื่องกลึงหน้าจาน (Facing Lathe): ใช้สำหรับปาดหน้าชิ้นงานที่มีขนาดใหญ่
เครื่องกลึงตั้ง (Vertical Lathe): ใช้สำหรับกลึงชิ้นงานที่มีความสูง
เครื่องกลึง CNC (CNC Lathe): เป็นเครื่องกลึงที่ควบคุมด้วยคอมพิวเตอร์ ทำให้ได้ชิ้นงานที่มีความแม่นยำสูงและซับซ้อน
เครื่องกัด (Milling Machine): ใช้สำหรับตัดเฉือนวัสดุโดยการหมุนเครื่องมือตัดและเคลื่อนที่ไปตามแกนต่างๆ เพื่อสร้างรูปร่างที่ซับซ้อน
เครื่องกัดเอนกประสงค์ (Universal Milling Machine): เป็นเครื่องกัดที่ใช้ในงานทั่วไป
เครื่องกัด CNC (CNC Milling Machine): เป็นเครื่องกัดที่ควบคุมด้วยคอมพิวเตอร์
เครื่องเจาะ (Drilling Machine): ใช้สำหรับเจาะรูบนชิ้นงาน
เครื่องเจาะทั่วไป (Conventional Drilling Machine): เป็นเครื่องเจาะที่ใช้แรงงานคนในการควบคุม
เครื่องเจาะ CNC (CNC Drilling Machine): เป็นเครื่องเจาะที่ควบคุมด้วยคอมพิวเตอร์
เครื่องไส (Shaping Machine): ใช้สำหรับไสชิ้นงานให้เป็นรูปร่างที่ต้องการ โดยเครื่องมือตัดจะเคลื่อนที่แบบเส้นตรง
เครื่องขัด (Grinding Machine): ใช้สำหรับขัดผิวชิ้นงานให้เรียบเนียน
เครื่องตัด (Cutting Machine): ใช้สำหรับตัดวัสดุ เช่น เครื่องตัดเลเซอร์ เครื่องตัดพลาสมา
การเตรียม ข้อมูลเพื่อสร้างชิ้นงานร่วมกับโรงกลึง
สิ่งที่ต้องเตรียมขอราคางานโรงกลึง
- ภาพชิ้นงาน โรงกลึงจะประเมินความยากง่ายในการทำงาน เบื้องต้นจากภาพ
- ขนาดชิ้นงาน ลูกค้านำชิ้นงานถ่ายรูปคู่กับไม้บรรทัด โรงกลึงเราจะพอประเมินขนาดของงานกลึงได้
- วัสดุที่ลูกค้าเลือกใช้ ถ้าเป็นงาน COPY Part ก็จะดูได้เลยว่าชิ้นงานทำจากทองเหลือง ทองแดง เหล็ก อลูมิเนียม สแตนเลส พลาสติก
- ถ้าลูกค้าไม่รู้ว่าวัสดุนั้นคืออะไร แจ้งการใช้งานมาก็ได้ครับ ทางโรงกลึงเราจะเสนอวัสดุที่เหมาะสมให้กับลูกค้า
- เช่นงานเฟือง ก็ควรใช้เหล็กตระกูล scm4 เนื่องจากมีความคนทานต่อแรงบิด
- ชิ้นงานตามแบบที่ต้องสัมผัสกับอาหาร คน สัตว์ ควรใช้สแตนเลสมากลึง จะปลอดภัยจากสนิม
- งานกลึงอะไหล่ ทำต้องการความเบาและแข็งแรง สามารถเลือกใช้อลูมิเนียม 6061 5083 7075 เพียงแค่นี้
- ติดต่อโรงกลึงเรามาทาง ID LINE: @pppn หรือ pppncnc.com ทางเราจะรีบติดต่อหาลูกค้าเผื่อให้บริการต่อไป
ถ้าลูกค้ายังไม่มีอะไรเลย โทรหาผมก็ได้ครับ
ผมจะเล่าให้ฟัง 0945428548 วิทย์ ครับ